ชาว ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น รวมกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ ไว้กินและขาย ปลอดภัย สร้างรายได้ สร้างสุข ชุมชนอบอุ่น พ้นทุกข์จากโควิด19
นายประพันธ์ จันทร์เหนือ อายุ 72 ปี ประธานกลุ่มผักปลอดสารพิษ บ้านดงกลาง หมู่ที่ 5 ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สมาชิกในกลุ่ม มีจำนวน 23 ครอบครัว เริ่มทำการเพาะปลูกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา และทำการเพาะปลูกมาทุกปีไม่มีเว้น พื้นที่ทำการเพาะปลูกเป็นที่ราชพัสดุ จำนวน 1 ไร่ 3 งาน แบ่งแปลงเพาะปลูกเป็นขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 6 เมตร โดยได้ 6 แปลงต่อครอบครัว ช่วงฤดูกาลเพาะปลูกคือ เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ส่วนผักปลอดภัยที่ปลูก ได้แก่ หอม คะน้า กระเทียม ผักกาด ผักกาดกวางตุ้ง กะหล่ำ ผักชีหอม ผักชีลาว ผักสลัด เป็นต้น
“การปลูกผักปลอดสารพิษจะไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมีหรือฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช โดยจะใช้ปุ๋ยชีวภาพน้ำหมักที่ทำกันเอง ใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะแก่งกุดโดก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่มีน้ำตลอดทั้งปี โดยใช้การสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ไปกักเก็บที่ไว้ถังหรือตุ่มน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 8 ถัง โดยมีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ตำบลบ้านโต้น ช่วยในดำเนินการดูแลและสนับสนุน มีข้อตกลงให้สมาชิกกลุ่มปลูกผักจ่ายค่าบริการในการช่วยค่าไฟฟ้าสูบน้ำ 10 บาทต่อเดือนต่อแปลง ส่วนผักต่างๆ ที่เป็นผลผลิต จะใช้สำหรับบริโภคกินเองในครอบครัว บางส่วนจะขายในหมู่บ้าน และจะมีชาวบ้านผู้ต้องการซื้อผักปลอดภัยนี้เดินทางมาซื้อถึงสวนผักกันเลย ไม่เคยได้เก็บขายที่ตลาด นอกจากนี้รายได้บางส่วนก็จะนำมาซื้ออุปกรณ์มาเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์การผลิตที่ชำรุดด้วย” ประธานกลุ่มผักปลอดสารพิษ กล่าว
ด้าน นางบังอร ดาสีวังปา อายุ 53 ปี สมาชิกกลุ่มผักปลอดสารพิษ ต.บ้านโต้น กล่าวว่า ตนปลูกผักจะมีรายได้จากการขายผักเฉลี่ย 250 บาทต่อวัน มีรายได้เป็นประจำทุกวันตลอดช่วงฤดูกาลเพาะปลูก จากที่ได้เข้าร่วมกลุ่มและทำการปลูกผักนี้ รู้สึกดีสดชื่น เพลิดเพลิน ไม่เหน็ดเหนื่อย ได้กินผักที่ปลูก ได้แบ่งปันและได้ขายมีรายได้ มีเงินไว้เก็บออมด้วย โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า การปลูกผักอินทรีย์นี้ทำให้มีความสุข ไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่โรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีสมาชิกในกลุ่มปลูกผัก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ บางคนจะมีอายุสูงถึง 70 ปีกว่าๆ ด้วย อาชีพหลักของตนคือทำนา แต่ช่วงว่างเว้นจากการทำนาจะมาปลูกผักสวนครัวเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวประมาณ 6,000-7,000 บาทต่อเดือน นอกจากจะปลูกที่แปลงผักของกลุ่มผักปลอดสารพิษ แต่ละคนจะปลูกในพื้นที่สวนของตนเองด้วย ส่วนผักที่ปลูกได้แก่ ถั่ว แตงกวา ส่วนที่นี่ ปลูกพริก หอม กระเทียม มะเขือ เป็นต้น
นายชูชาติ หรัญรัตน์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพระยืน กล่าวว่า เริ่มแรกของการปลูกผักปลอดภัยนี้ กศน.จะเป็นผู้สนับสนุนการเพาะปลูกผักปลอดภัยสำหรับนักเรียน กศน.ตำบลบ้านโต้น ที่มี นายประยุทธ์ ขันหนองโพธิ์ อายุ 56 ปี หัวหน้า กศน.ตำบลบ้านโต้น เป็นผู้คิดริเริ่มดำเนินการ ด้วยการจัดการเรียนการสอนตามบริบทพื้นที่ของชุมชน ต่อมาได้ขยายงานไปถึงชาวบ้านที่สนใจมาเข้าร่วมดำเนินการปลูกผักปลอดภัย ได้กินแบ่งปันตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีการส่งเสริมและสนับสนุนเชิญชวนผู้สนใจมารวมกลุ่มกันมากขึ้น จัดสรรแปลงเกษตรและจัดหาน้ำเพื่อการเพาะปลูกด้วยระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น ถังกักเก็บถังน้ำ อ่างพักน้ำ และท่อส่งน้ำ นอกจากนี้ กศน.จะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการกลุ่มปลูกผักปลอดภัยให้ดำเนินการต่างๆ เรื่อยมาด้วย
ด้าน นายชาญชัย เพชรสีเขียว ผู้ใหญ่บ้านดงกลาง หมู่ที่ 5 ต.บ้านโต้น อ.พระยืน กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มปลูกผักปลอดภัย จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมี จะใช้ปุ๋ยคอกและทำปุ๋ยน้ำหมักผักสดขึ้นมาใช้เองด้วย มีการประชุมกลุ่มและมีข้อตกลงร่วมจะไม่ใช้สารเคมีหรือปุ๋ยเคมีรวมทั้งสารกำจัดศัตรูพืชต่างๆ ด้วย ผลดังกล่าวทำให้สมาชิกกลุ่มปลูกผักปลอดภัยนี้ มีผักปลอดภัยได้กินปลอดภัยมีสุขภาพที่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้น มีการช่วยเหลือและแบ่งปันกันในชุมชน สมาชิกกลุ่มได้มาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เกิดความรักสามัคคีของคนในชุมชน คนมีความสุขมากขึ้นด้วย ประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การมาร่วมกันปลูกผัก ได้พี่ได้น้องได้ความรักสามัคคีกัน นอกจากนี้ยังมีการปลูกในพื้นที่ของตนเองตามสวนตามไร่นาด้วย หมู่บ้านทำตามเกษตรทฤษฎีใหม่นำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้
“ช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID19) กลุ่มผักปลอดสารพิษ บ้านดงกลาง หมู่ที่ 5 ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ทำมาหากินเลี้ยงชีพของตน จะตอบโจทย์ในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID19) ได้เป็นอย่างดี เพราะชาวบ้านไม่ต้องเดินทางไปจับจ่ายซื้อขายผักที่ตลาด ไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการสัมผัสผู้คนจำนวนมาก ชาวบ้านจะทำงานเพาะปลูกผักกันเอง ได้มาก็บริโภคกินกันเอง ปลอดภัย ไร้โรค สร้างรายได้ สร้างสุข ชุมชนอบอุ่น มีความรักสมัครสมานท์สามัคคีกันดัวย” ผู้ใหญ่บ้านดงกลาง กล่าวย้ำในตอนท้าย.
ไพฑูรย์ พรหมเทศ ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ จ.ขอนแก่น
